‘ถ้าเราเหนื่อยล้า จงเดินเข้าป่า’ หลายคนอาจจะเคยคุ้นหูกับท่อนนี้กันดี แต่ว่าคงจะคิดว่าการเดินเข้าป่ามันจะช่วยผ่อนคลายอะไรให้แก่เราได้จริงหรือ ซึ่งจากหลายๆ คนที่เคยมีประสบการณ์การเข้าป่าต่างก็ยืนยันได้เลยว่ามันจริงแท้อย่างแน่นอน
การเดินเข้าป่า เป็นเสมือนกับการให้ตัวเองได้กลับไปสัมผัสกับธรรมชาติอีกครั้ง อีกทั้งยังเป็นการอยู่กับตัวเองอีกด้วย แล้วถ้ายิ่งเราได้เดินเข้าป่าไหนที่สวยๆ นะ รับรองได้เลยว่าจะต้องฟินจนติดใจเอาไปบอกต่อกับคนอื่นๆ เลยว่ามันดีต่อใจซะขนาดไหน
แต่ถ้ายังนึกสถานที่สำหรับเดินป่าไม่ถูกล่ะก็ ในวันนี้ #เหมียวจิวยี่ ก็มีสถานที่มาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน ซึ่งก็จะมีทั้งป่าอันเขียวขจีที่อยู่ในประเทศไทยเรา และป่าในประเทศอื่นๆ ทั่วทั้งโลก เผื่อเอาไว้ว่าใครอยากหาประสบการณ์การเดินทางใหม่ๆ จะได้มีทางเลือกกันเยอะๆ ยังไงล่ะ..
1. ท่าปอมคลองสองน้ำ จังหวัดกระบี่ ประเทศไทย
มาเริ่มกันก่อนที่ประเทศไทยเราดีกว่า สำหรับที่ท่าปอมคลองสองน้ำนี้มีชื่อดังไกลไปจนถึงต่างประเทศ ด้วยต้นโกงกางสีสวยที่ตัดกับน้ำสีฟ้าใส จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกสถานที่ีหนึ่งที่สำหรับสายชมธรรมชาติจะพลาดไปไม่ได้เลยด้วยประการทั้งปวง แถมที่นี่ยังจะทำให้เราอารมณ์ดีขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
2. ศูนย์อนุรักษ์ธรรมชาติซิงงี ประเทศมาดากัสการ์
สำหรับที่นี่จะมีมีความพิเศษกว่าที่อื่นนั่นก็คือจะเป็น ‘ป่าหิน’ ซึ่งเป็นภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยหินเหล่านี้เกิดขึ้นจากหินปูนที่ถูกกัดกร่อนโดยเม็ดฝนเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี
และความโดดเด่นของที่นี่ถึงขั้นที่ว่าองค์การ UNESCO ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่มรดกโลกเลย ถ้าใครอยากจะลองเดินป่าแบบแปลกออกไปล่ะก็ ที่นี่น่าจะตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดีเลย
3. ป่าต้นเลือดมังกร (Dragon’s Blood Forest) กลุ่มเกาะโซโคตร้า ประเทศเยเมน
ถ้าใครชื่นชอบต้นไม้หน้าตาแปลกๆ อย่างต้นเลือดมังกรนี้ล่ะก็ นี่อาจเป็นสวรรค์สำหรับคุณเลย โดยนอกจากต้นไม้นี้ที่เป็นจุดขายของที่นี่แล้ว
ด้วยความที่เกาะแห่งนี้ได้แยกตัวออกมาจากแผ่นดินใหญ่เมื่อกว่า 34 ล้านปีที่แล้ว ทำให้ธรรมชาติของที่นี่ค่อนข้างจะมีความโดดเด่นมากกว่าที่อื่น ถึงขั้นที่ว่า 37% ของพันธุ์พืชที่นี่จะไม่สามารถหาชมได้ที่อื่นบนโลกเลยทีเดียว
4. ป่าไผ่ซากาโนะ เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
ใครหลายคนคงเคยดูหนังจีน หรือหนังญี่ปุ่นที่มีฉากร่ายรำกันท่ามกลางป่าไผ่แล้วอยากจะทำบ้าง ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมไม่ลองมาที่นี่ดูล่ะ เพราะว่าที่แห่งนี้ไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่ต้นไผ่อยู่เต็มไปหมด จนบางทีเราอาจจะคิดว่าเราหลงเข้าแล้วก็ว่าได้ และกลิ่นธรรมชาติของต้นไผ่มันจะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นแบบสุดๆ ด้วยล่ะ
5. ป่า Monteverde Cloud Forest ประเทศคอสตาริกา
ป่าเขตร้อนที่ปกคลุมไปด้วยม่านเมฆหมอกตลอดทั้งปี ที่หลายคนยกให้ว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่หาได้ยากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลย โดยที่นี่มีพื้นที่กว้างมากกว่า 105 ตารางกิโลเมตรเลย ซึ่งมันได้เป็นบ้านให้พันธุ์สัตว์และพันธุ์พืชมากกว่าหลายพันสปีชีส์ ซึ่งเราสามารถสังเกตเห็นลิง เสือพูม่า หรือกบต้นไม้ตาแดงได้
6. ป่าสงวนแห่งชาติโอลิมปิก (Olympic National Forest) รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
ป่าอันอุดมสมบูรณ์แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาแห่งนี้ จัดได้ว่าเป็นพื้นที่สีเขียวอย่างเต็มตัว ซึ่งนอกจากต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ ที่ขึ้นเหมือนกับป่าฝนที่อื่นแล้ว ที่นี่ยังมีพุ่มมอสน่ารักๆ ให้เราได้ดูชมกันด้วย หากใครอยากจะเข้าป่าไปสูดโอโซนให้เต็มปอดแล้วล่ะก็ ที่นี่แหละเหมาะเหม็งที่สุดแล้ว
7. อุทยานแห่งชาติตามันเนอการา (Taman Negara) ประเทศมาเลเซีย
หนึ่งในป่าฝนที่มีความเก่าแก่มากที่สุดในโลกสำหรับที่นี่ โดยสันนิษฐานเอาไว้ว่าที่นี่มีอายุมากว่า 130 ล้านปี และในตอนนี้ที่นี่ยังมีทางเดินมุมสูง (Canopy Walk) สำหรับผู้ที่ไม่กลัวความสูงจะได้มองเห็นป่าทั้งป่าได้แบบง่ายๆ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่ามันงดงามมากจริงๆ
หลากที่หลากสไตล์ ลองเลือกๆ กันดูนะว่าจะไปที่ไหนดี…
ที่มา: thisinsider