เมื่อเวลาผ่านพ้นไป บางสิ่งบางอย่างก็อาจจะเลือนหายไปตามกาลเวลาด้วย เหมือนกับสิ่งก่อสร้างบางอย่างที่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะค่อยๆ เก่า ค่อยๆ เสื่อมโทรมไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้ จนบางทีมันก็ได้ทำให้บางอย่างหายไปอย่างไร้ร่องรอยเลย
แต่รู้หรือไม่ว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งบนโลกที่ในอดีตเมื่อ 9,000 ปีที่แล้ว เป็นสถานที่สำหรับมนุษย์อย่างเราๆ อาศัยกันอยู่ ทว่ามันไม่ได้หายไปตามกาลเวลาเหมือนกับสิ่งอื่น และที่น่าตกใจก็คือมันยังอยู่มาจนถึงทุกวันนี้แถมยังมีคนอยู่อาศัยอีกเพียบ!!
Sassi di Matera นครถ้ำโบราณในประเทศอิตาลี เป็นนครที่เต็มไปด้วยถ้ำน้อยใหญ่มากมายกว่า 1,000 ถ้ำ ที่นี่ ซึ่งมีความเชื่อกันว่านี่อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ในแถบลุ่มเมติเตอร์เรเนียนเลยด้วย และถ้าหากนับจริงๆ มันน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยยุคหินเก่าเลย
มีถ้ำมากมายอยู่ในนครแห่งถ้ำแห่งนี้
สถานที่แห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนมาอย่างช้านาน ทว่าในช่วงศตวรรษที่ 1950 ก็ได้เกิดปัญหาขึ้นกับผู้คนที่นี่เมื่อมีปัญหาความยากจนเข้ามา แถมยังต้องอยู่กันอย่างทรหด
เพราะไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า หรือพูดง่ายๆ ก็คือไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เลย แถมยังมีปัญหาเรื่องน้ำเน่าเสียอีกต่างหาก
ทางรัฐบาลจึงพยายามจะให้ชาวบ้านที่นครถ้ำแห่งนี้ออกจากพื้นที่ อพยพไปอยู่ที่อื่น แต่พวกเขาก็ยังคงยืนยันจะไม่ไปไหน
จนกระทั่งในปี 1993 องค์การ UNESCO ก็ได้ขึ้นทะเบียนให้ที่นี่เป็นมรดกโลก และได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น
จึงส่งผลถึงปัจจุบันทำให้มีโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร เกิดขึ้นที่นี่อย่างมากมาย และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนจำนวนมากพากันเข้ามาเยือน
นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ยังได้ค้นพบ รูปปั้น เหรียญ และเครื่องปั้นดินเผา ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี อีกด้วย
เคยใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายภาพยนตร์ฮอลลีวูดมากมาย อย่างเรื่อง The Passion of Christ, The Nativity Storyและ King Davis
สภาพหน้าตาของเมืองก็จะเป็นประมาณนี้
อาศัยอยู่ในถ้ำใช้เป็นที่คุ้มฟ้าคุ้มฝน
ถ้าหากได้ลองเข้าอยู่ อาจจะสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกขึ้นไปอีกก็ได้
ที่มา: lifebuzz
หวังว่าผู้อ่านจะชื่นชอบบทความนี้ และถ้าใครอยากรับโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด แถมข้อมูลพาเที่ยวที่แปลกๆ อย่างครบครัน อย่าลืมกดติดตามเพจ เหมียวพาเที่ยว by CatDumb เพื่อให้ไม่พลาดทุกข่าวสารก่อนใครเลยนะครับ...